ประกาศรายชื่อผู้โชคดีที่ร่วมสนุกกับกิจกรรมของ TripTourTeam ได้แก่ 1. คุณ ศวิตา ประจวบแสง (spy'24) จาก Blog สุขภาพดี 2. คุณ พัชรินทร์ หินอ่อน (nongrin) จาก Blog TripTourTeam 3. คุณ ภิญญดา อชิรเชาวภาส (ภิญญดา บ้าน 818) จาก Blog บ้าน 818 4. คุณ ภัทรจิรา พาร์สันต์ (น้องอ้อ) จาก Blog 108-1009 5. คุณ ศิริพันธ์ พูลเจริญ (s'phan ttt) จาก Blog TripTourTeam 6. คุณ ฐาปนี ดีดอน (tappie) จาก Blog TripTourTeam 7. คุณ นชาพร แซ่เหลี่ยน (napa) จาก Blog บ้าน 818 ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ อย่าลืมเข้ามาร่วมสนุกกับกิจกรรมดีๆ แบบนี้กันเยอะๆ นะคะ



25 มิถุนายน 2551

พระอาทิตย์

วันนี้มีรูปการถ่ายพระอาทิตย์แบบเก๋ๆ มาให้ดูกันค่ะ ช่างคิดกันจริงๆ แต่ก็สร้างสรรค์ดีนะ (รีป่าว ^_^) ใครจะลองเลียนแบบดูก็ได้นะคะ แต่ต้องเล็งดีๆ ล่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวออกมาแล้วไม่สวยนะ






































24 มิถุนายน 2551

ฟรี ฟรี ฟรี !!!!!

มีของฟรี!!!มาบอกค่ะ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดทำ " คู่มือบินไปบินกลับ ขับรถเที่ยว " เพื่อส่งเสริมและพัฒนารูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ให้รองรับกับความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่เริ่มวางแผนและเดินทางด้วยตัวเองเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน ทั้งที่เดินทางเป็นกลุ่มย่อยหรือเป็นคู่ฮันนีมูน เพื่อความเป็นส่วนตัวและอิสระในการจัดสรรเวลา


" คู่มือบินไปบินกลับ ขับรถเที่ยว " เป็นคู่มือแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวจำนวน 30 เส้นทาง ประกอบด้วยเส้นทางที่มีแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก แหล่งจับจ่ายซื้อของ ร้านอาหาร ประเพณีที่น่าสนใจ ครอบคลุมทุกภาคของประเทศไทยตั้งแต่เหนือจรดใต้ อาทิเช่น เส้นทางเหนือสุดแดนสยาม (วนขวาเลียบริมโขง), เส้นทางสีสันตะวันออก, เส้นทางไหมแพรวา ตามรอยไดโนเสาร์, เส้นทางล่องทะเลสาบ อาบน้ำทะเลสาบ อาบน้ำแร่ เป็นต้น ให้นักท่องเที่ยวได้ใช้ประโยชน์ระหว่างการเดินทางตามเส้นทางในคู่มือ

ผู้สนใจสามารถขอรับหนังสือได้ฟรีที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ TAT Call Center 1672

23 มิถุนายน 2551

เทคนิคการท่องเที่ยว

อยากจะขอแนะนำเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการท่องเที่ยวนะคะ ซึ่งบางคนอาจจะทำเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ถ้าใครไม่เคยทำก็ลองดูนะคะ อาจจะช่วยคุณได้บ้าง


1. ถ้ามีเวลาท่องเที่ยวมาก
หรือถ้าช่วงเทศกาลนั้นหยุดนาน อยากพักผ่อนในการท่องเที่ยวจริงๆ อย่าไปสถานท่องเที่ยวยอดนิยมหรือสถานที่เที่ยวที่ไกลจากจังหวัดที่คุณอยู่ เพราะทุกคนก็จะหยุดพร้อมๆ กัน และแห่กันไปเที่ยวที่เดียวกับคุณ เพราะฉะนั้นอาจเที่ยวให้ใกล้เข้ามาอีกหน่อยแต่อยู่หลายวันแทน

2. คุณต้องจองก่อนเดินทาง หรือจองล่วงหน้า
เชื่อว่าบางคนหรือบางบริษัททัวร์จองต้นปีเที่ยวท้ายปีก็มี เพราะนักท่องเที่ยวอีกจำนวนไม่น้อยที่นิยมการเที่ยวแบบตายเอาดาบหน้า ผลก็คือ จะทำให้การเดินทางของคุณเสียเกือบทั้งหมด

3. ทำการบ้านให้ดี
ข้อนี้ก็คือ คุณจะต้องตรวจสอบไปที่จังหวัด หรือ ททท. ของพื้นที่ เพื่อยืนยันเทศกาลของจังหวัดที่คุณจะไปเที่ยวให้ดี เพราะบ่อยครั้งที่มีการเลื่อนงานหรือเทศกาลจากหมายกำหนดการเดิมที่วางแจ้งไว้ในกำหนดการล่วงหน้า

4. ศึกษาเส้นทางให้ดี
เพราะหลายครั้งเส้นทางยอดนิยม เช่น ในกรุงเทพ ไม่ว่าเส้นบางนา หรือเส้นวิภาวดี ทำให้คุณแทบจะกินนอนบนรถ เพราะฉะนั้นลองดูเส้นทางให้ดี ถ้ามีทางเลือกอื่นอย่าเดินทางในเส้นทางหลักในขั้นแรกของการเดินทาง หลังจากนั้นควรเปลี่ยนเข้าเส้นทางหลักเพราะปลอดภัยกว่า

5. อย่าหวังน้ำบ่อหน้า
ข้อนี้สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเต้นท์ ถุงนอน หรือที่พัก แม้กระทั่งการซื้อตั๋วต่างๆ เพราะอย่างน้อยถ้าคุณเตรียมไปก่อนการท่องเที่ยวครั้งนั้นของคุณก็จะไม่ต้องแก้ปัญหาในเรื่องที่อาจจะทำให้คุณหงุดหงิด จนอาจจะทำให้คุณหมดสนุก เพราะฉะนั้นคุณควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทางนะคะ

คุณเคยนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้กันบ้างหรือไม่ ?????

20 มิถุนายน 2551

ข้อพึงปฏิบัติสำหรับการเที่ยวทะเลไทย

ทะเลไทยเป็นของทุกคน เราทุกคนล้วนแต่ใช้ประโยชน์จากทะเล ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนไม่ว่าจะอยู่เหนือ ใต้ ออก ตก ที่จะต้องร่วมเก็บสมบัติของชาติไว้ให้ลูกหลาน ความสำนึกในหน้าที่ของผู้ที่เกิดมาบนแผ่นดินนี้ คือ สิ่งที่ทุกคนมีอยู่แล้ว เพียงแค่จะขอแนะนำสิ่งที่พึงปฏิบัติ เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมรักษาทะเลไทย

สำหรับคนทั่วไป

1. อย่าเลี้ยงสัตว์ทะเลสวยงาม... เพราะเลี้ยงได้ไม่นานเขาก็จะเจ็บตาย ป่วยตาย หรือช้ำใจตาย ความงดงามของโลกใตทะเลชื่นชมจากนรกตู้ปลาไม่ได้เด็ดขาด

2. อย่าสร้างบ้านทำร้ายธรรมชาติ... เปลือกหอย ปะการัง หรือกัลปังหา ที่คุณนำมาประดับบ้าน มิใช่การแสดงออกถึงความเป็นคนอยากอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ แต่แสดงว่าไม่เคยนึกถึงลูกหลานว่าเมื่อโตขึ้นจะมีทะเลไหนให้ใช้ประโยชน์

3. อย่าทิ้งขยะหรือของเสียลงแม่น้ำ ชายหาด หรือในทะเลโดยตรง

4. อย่าลังเลที่จะใช้สิทธิของคุณในการปกป้องทะเล... ถ้าคุณเห็นคนทำลายสมบัติของเขา นั่นเป็นสิทธิ์ของเขา แต่ทะเลไทยเป็นของเราทุกคน ใช้สิทธิ์ของคุณให้เป็นประโยชน์ในทุกวิถีทาง

5. อย่าหมดหวัง... คนไทยหลายคนไม่มีความหวังเหลือแล้ว หลายคนบอกว่าช่างมันทะเลยไทย แต่ถ้าเราไม่ทำแล้วใครล่ะจะทำ? ช่วยดูแลทะเลไทยในทุกวิถีทางที่ทำได้ มิใช่เป็นหน้าที่หรือกฎระเบียบ แต่คือสามัญสำนึกของคนที่เกิดบนแผ่นดินนี้ เป็นสำนึกของคนที่รู้คุณแผ่นดิน และผืนน้ำที่เรียกว่า " เมืองไทย "

สำหรับชาวประมง

ถามคุณปู่ว่าทะเลแต่ก่อนเป็นอย่างไร? ถามคุณพ่อว่าสัตว์น้ำมีเยอะไหม? และถามตัวเราว่า เมื่อลูกถามจะบอกกับพวกเขาอย่างไร? เลิกการทำประมงผิดกฎหมายทุกชนิด เพราะสิ่งที่คุณทำกำลังส่งผลเห็นชัดเจน











สำหรับนักท่องเที่ยว

1. อย่าเที่ยวทะเลเพื่อการระบายออก... การมาเที่ยวในวันนี้ของคุณย่อมมีผลในวันหน้า คุณอาจไม่มาแต่ลูกหลานของคุณย่อมมีสิทธิ์มา เลิกทิ้งขยะ ทิ้งของเสีย ย่ำยีธรรมชาติ หรือรบกวนผู้อื่น
2. เลิกซื้อของฝากจากทะเล... นั่นไม่ใช่ของที่ผู้รับควรดีใจ แต่เป็นของที่เผื่อแผ่บาปกันไปให้ถ้วนหน้า ปะการัง เปลือกหอย ปลาปักป้าโคมไฟ พวงกุญแจม้าน้ำ ฯลฯ เคยเป็นสิ่งมีชีวิตในทะเลแต่คนจับมาฆ่าให้ตายเพื่อเอาศพมาขายให้คุณ อย่าสนับสนุนหารซื้อศพสัตว์น้ำมาแล้วหลงนึกว่านี่คือ " ของที่ระลึก "

3. อย่าแตะต้องสิ่งมีชีวิตในทะเลทุกชนิดอย่างจงใจ... คุณอาจพลั้งพลาดเหยียบลูกปูลมเพราะมองไม่เห็น แต่การจับปูลมมากัดกันเล่นเรพาะสนุกดี นั่นคือการจงใจ การจับสัตว์ทะเลมาให้เพื่อนหรือแฟนดู นั่นก็จงใจ การยืนเหยียบบนก้อนปะการังแล้วอ้างว่าเหนื่อย นั่นยิ่งจงใจ

4. ปฏิบัติตามกฎกติกามารยาทในสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเคร่งครัด... เมื่อเข้าไปถึงสถานที่ไหนสิ่งแรกที่คุณควรทราบคือกฎระเบียบต่างๆ

สำหรับนักตกปลา

1. มีจรรยาบรรณ... พึงทราบว่าสิทธิ์ของกีฬาตกปลาคือสิ่งใด? อย่าตกปลาในพื้นที่ห้ามตกทุกแห่ง

2. อย่ากล่าวอ้าง... อ้างว่าเมืองนอกตกได้ อ้างว่าทีชาวประมงจับปลาตั้งเยอะทำไมยังทำอยู่ได้? อ้างว่าแค่สองสามตัวเอง อ้างว่าตกเล่นๆ เดี๋ยวก็เลิกแล้ว อ้างว่าทีคนอื่นเส้นใหญ่ทำไมทำได้? ทุกอย่างไม่มีประโยชน์ เมื่อคุณทำผิดจงยอมรับและเลิกทำ เพราะพวกคุณทราบดีว่า เมื่อใกล้ขิดกับทะเลเป็นเช่นไร? เก็บความรู้สึกดีๆ นั้นไว้ เก็บทะเลไทยไว้อย่างนักตกปลาที่ดี

สำหรับนักดำน้ำ

1. อย่าเข้าใจผิด... การดำน้ำทำให้คุณเข้าไปสู่โลกใต้ทะเล แต่ไม่ใช่เพื่อหาของกินหรือวี๊ดว๊ายตื่นเต้นดีใจ

2. อย่าเร่งรีบ... ลงน้ำทั้งที่ตัวเองยังไม่มีความชำนาญ หล่นโครมไปบนกอปะการัง เตะกัลปังหาและดาวขนนกกระจุย ปัดตะกอนทรายฟุ้งกระจายขึ้นมาตกทับสัตว์ทะเล อย่ารีบถ่ายภาพหรือถ่ายวีดีโอถ้าคุณยังบังคับการทรงตัวไม่ได้

3. อย่าดื้อ... บางครั้งกระแสน้ำหรือคลื่นลมแรงคุณอาจรอดขึ้นมาจากทะเลได้ แต่ชีวิตใต้ทะเลหลายต่อหลายตัวตายไปเพราะโดนจับ โดนแตะ เลือกสถานที่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์

4. อย่าผจญภัยเกินควร... ซอกหลืบใต้ทะเลมีโลกสวยสดน่าตื้นเต้น หลายคนชอบมุดเข้าถ้ำลอดช่องที่เล็กที่สุดเพื่อความสะใจ แต่โปรดระวังแทงค์คุณอาจชนสัตว์ตัวน้อยปลิวกระจาย ฟองอากาศของคุณไปสะสรวมกันพี่เพดานถ้ำตนกลายเป็นโพรงอากาศ สัตว์เหี่ยวแห้งหายใจไม่ออกตายหมด รักษาระดบการผจญภัยของคุณให้เหมาะสม

5. อย่าอยากเท่... การดำน้ำไม่ใช่กีฬาอวดสาว การที่คุณไปเกาะสัตว์อื่น เช่น ฉลามวาฬ เต่า กระเบน เพราะคิดว่าสนุกดีหรือเท่ดี คุณกำลังทำตัวน่าสงสารในสายตาคนอื่นว่าทำไมคิดน้อยจัง ความยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์ของเพื่อนใต้ทะเลเหล่านั้นไม่ใช่เครื่องเล่นในสวนสนุก

6. จงภูมิใจและกระทำ... พวกคุณเป็นคนกลุ่มน้อยที่เห็นด้วยสายตา ทราบด้วยความรู้สึกว่าโลกใต้ทะเลไทนยิ่งใหญ่เพียงใด? ถ้าคุณทำร้ายทะเลแล้วไม่ต้องไปหวังให้คนอื่นมาอนุรักษ์ทะเล การลงน้ำทุกครั้งของคุณมีความหมาย คำพูดของคุณมีความหมาย และการกระทำของคุณยิ่งมีความหมาย จงทำตัวให้น่าภูมิใจสมเป็นคนแห่งโลกสีคราม ตอบแทนทะเลเมื่อทะเลต้องการ !!!!

เวลาคุณไปเที่ยวทะเลคุณช่วยเหลือทะเลกันอย่างไรบ้าง ???

ดอยเสมอดาว

สำหรับคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวภูเขาอาจจะเคยไปที่แห่งนี้มาแล้ว เนื่องจากมีทิวทัศน์ที่สวยงามเหมาะแก่การไปเที่ยวอย่างยิ่ง











ดอยเสมอดาว เป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน จ.น่าน เป็นจุดที่สามารถมองเห็นได้รอบทิศทาง เห็นวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำน่านที่ทอดยาวในหุบเขา และเห็นยอดผาชู้ที่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างหน้า รวมทั้งมองเห็นบ้านพักและที่ทำการอุทยานฯอีกด้วย ในตอนเย็นก็สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ได้ บริเวณ ดอยเสมอดาว นี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ท่านได้เดินเที่ยวชมกัน ซึ่งมีบรรยากาศที่สวยงาม


อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งขวาของแม่น้ำน่านตอนใต้ ป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยงวง ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำว้า และป่าห้วยสาลี มีพื้นที่ประมาณ 934 ตารางกิโลเมตร หรือ 583,750 ไร่ มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนมีความสูงต่างกันหลายระดับ จึงทำให้มีสภาพป่าหลายชนิด เช่น ป่าดิบเขา (ตะเคียน, กระบาก, ปาล์ม, ขิง, ข่า และเฟิร์น), ป่าดิบแล้ง (ยาง, กระบก, แตง และเหียง), ป่าสน, ป่าเบญจพรรณ (ไม้สัก, ชิงชัน, ประดู่, ตะเคียนทอง, มะค่า และโมง), ป่าเต็งรัง (เต็ง, รัง และเหียง) สัตว์ป่าที่พบ เช่น ช้าง วัวแดง กระทิง หมี เลียงผา กวาง เก้ง เป็นต้น




นอกจาก ดอยเสมอดาว แล้ว อุทยานแห่งนี้ยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจอีก คือ เสาดินและคอกเสือ เกิดจากการพังทลายของดินเป็นพื้นที่กว้าง ปากนาย เกิดจากสภาพป่าที่ถูกน้ำเหนือเขื่อนสิริกิติ์ท่วมถึง แก่งหลวง เกิดจากแนวหินน้อยใหญ่ที่กระจัดกระจายอยู่ในแม่น้ำน่าน รวมทั้งโขดหินและหน้าผา จุดชมวิวผาชู้ เป็นจุดชมวิวที่ติดกับถนนที่เป็นหน้าผาใหญ่โดเด่น .

สิ่งอำนวยความสะดวก มีบ้านพักจำนวน 4 หลัง พักได้ประมาณ 60 ท่าน มีสถานที่กางเต้นท์บริเวณดอยเสมอดาวและที่ทำการอุทยานฯที่ผาชู้




















ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.oceansmile.com/N/Nan/NANm7.htm

18 มิถุนายน 2551

มัลดีฟส์หมู่เกาะในฝันของใครหลายๆ คน

เชื่อว่าคนที่ชื่นชอบการไปเที่ยวทะเล ดำน้ำชมปลา ปะการังสวยๆ มัลดีฟส์ คงเป็นหนึ่งในใจใครหลายๆ คน ที่หวังว่าซักวันหนึ่งต้องมาให้ได้

มัลดีฟส์ ประกอบด้วยหมู่เกาะทั้งหมด 1,900 เกาะ (มากกว่า 200 เกาะเป็นที่อยู่อาศัย) อยู่กลางมหาสมุทรอินเดีย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศศรีลังกา มีเมืองหลวงคือ เมืองมาเล่ เมื่อครั้งที่เกิดเหตุการณ์สึนามิ บ้านเรือนของชาวบ้านหลายแห่งบนเกาะ มัลดีฟส์ ที่สร้างด้วยวัสดุที่หาได้ง่ายๆ จากท้องทะเล คือ ปะการัง ด้รับความเสียหายไปด้วย ซึ่งเกาะมัลดึฟส์ที่ปริ่มน้ำนั้นอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากสุดเพียงแค่ 2.5 เมตร และกำลังจะจมน้ำในอีกไม่ถึง 100 ปี หากภาวะโลกร้อนยังไม่สามารถป้องกันได้ แต่ปัจจุบันบ้านเรือนได้รับการซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ โดยความช่วยเหลือของทางราการ มีการนำวัสดุที่มีความแช็งแรงกว่า เช่น อิฐและซีเมนต์ ทำให้บ้านหลังใหม่มีรูปแบบที่แปลกไปจากเดิม หลายคนอาจสงสัยว่าการนำปะการังมาสร้างบ้านไม่เป็นการทำลายธรรมชาติหรอ? จริงๆ แล้วถ้าเฉพาะเพียงชาวบ้านนำมาสร้างบ้านอย่างเดียว ไม่ทำให้ปะการังหมดไปได้ง่ายๆ เพราะเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่มากใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมด เนื่องจากโครงสร้างของเกาะต่างๆ ในหมู่เกาะ มัลดีฟส์ นั้นเกิดจากการทับถมของปะการังในทะเลอยู่แล้ว ซึ่งชาวบ้านก็ไม่ได้นำขึ้นมาสร้างใหม่กันทุกวัน

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเดินทาง สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบแสงแดดจะมาในช่วงฤดูร้อนเป็นจำนวนมาก อยู่ระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน และโดยเฉพาะตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายนซึ่งอากาศจะร้อนและแห้งที่สุด แม้จะมีฝนตกบ้างแต่ก็ไม่มากนักและความชื้นก็ไม่สูงเกินไป ส่วนเดือนพฤษภาคมถึงเดือนพฤศจิกายนเป็นฤดูที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่าน ทำให้มีพายุฝนกระหน่ำอยู่บ่อยๆ ซึ่งช่วงนี้ราคาค่าที่พักจะถูกลงกว่าช่วงอื่นๆ นอกจากนี้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน และช่วงต่อระหว่างมีนาคมกับเมษายนก็ถูกจัดว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความพิเศษในตัวของมันเอง เพราะเชื่อกันว่าเป็นระยะเปลี่ยนผ่านของลมมรสุมซึ่งจะทำให้น้ำทะเลใสเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดำน้ำโดยเฉพาะ สภาพอากาศโดยทั่วไปของ มัลดีฟส์ จะเป็นแบบร้อนชื้น อบอุ่นตลอดทั้งปี

จุดเด่นของเกาะมัลดีฟส์ นอกจากโลกของสัตว์น้ำอันน่าตื่นตาและไม่มีพิษภัยแล้ว ใต้ท้องทะเล มัลดีฟส์ ยังมีจุดดำน้ำที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง อันเป็นที่ตั้งของซากเรือเดินทะเลที่อับปางลงในอดีต และกลายมาเป็นแนวปะการังที่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำมากมาย บนท้องฟ้าก็ยังมีบริการเที่ยวบินชมความงามของอะตอล หาดทราย และแนวปะการัง จากมุมมองของนกอีกด้วย

13 มิถุนายน 2551

มาคลายเครียดกันดีกว่า

ช่วงนี้เศรษฐกิจย่ำแย่ มีแต่เรื่องเครียดๆ มาลองคลายเครียดกันหน่อยดีกว่า ใครเล่นถึง Level อะไรก็โพสต์กันไว้นะคะ วิธีเล่นก็ง่ายๆ เลยค่ะ แค่คลิกลูกโป่งตรงที่มีสีเหมือนกันเยอะๆ จนขึ้น Level Completed แล้วเล่นต่อจนขึ้นว่า Good Job ก็จะเปลี่ยนเป็น Level ต่อไปค่ะ

12 มิถุนายน 2551

ไปเที่ยวทุ่งดอกไม้กันนะคะ

ทุ่งดอกไม้เสน่ห์และสีสันความงามของธรรมชาติ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่ผลิดอกออกตามฤดูกาลให้เราได้ชื่นชมความงามเพียงปีละครั้ง ทุ่งดอกไม้ที่เรานำเสนออาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ท่านรู้สึกหลงเสน่ห์การท่องเที่ยวบ้านเรามากยิ่งขึ้น

1. ทุ่งดอกทานตะวัน


เทศกาลเที่ยวทุ่งทานตะวันเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงราวกลางเดือนมกราคม ทุ่งดอกทานตะวันแหล่งใหญ่อยู่ที่ จ.ลพบุรี พื้นที่ที่ปลูกเป็นจำนวนมาก ได้แก่ บริเวณเขาจีนแล ใกล้วัดเวฬุวัน ตำบลโคกตูม อำเภอเมือง

2. ทุ่งดอกกระเจียว


ฤดูกาลท่องเที่ยวทุ่งดอกกระเจียวเริ่มประมาณเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนสิงหาคม แต่ช่วงที่สวยสดและเหมาะกับการถ่ายรูปที่สุดคือเดือนมิถุนายน ดอกกระเจียวจะขึ้นและบานเป็นสีชมพูอมม่วงในช่วงต้นฤดูฝนเท่านั้น ทุ่งดอกกระเจียวสีชมพูแหล่งใหญ่อยู่ที่ จังหวัดชัยภูมิ คือ "อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม" และ "อุทยานแห่งชาติไทรทอง"

3. ทุ่งดอกบัวตอง


ช่วงเวลาที่เหมาะสมของการเที่ยวชมทุ่งดอกบัวตองคือเดือนพฤศจิกายน แหล่งท่องเที่ยวทุ่งดอกบัวตองที่สวยงามขอแนะนำ 2 แห่งคือ “ทุ่งดอกบัวตองที่วนอุทยานทุ่งบัวตอง” จ.แม่ฮ่องสอน และ “ทุ่งดอกบัวตองที่ดอยหัวแม่คำ” จ.เชียงราย

4. ทุ่งดอกไม้ภูสอยดาว


ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การชมทุ่งดอกหงอนนาคคือเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน หรือเรียกได้ว่าแบ่งบานกันในช่วงฤดูฝนถึงช่วงปลายฝนก็ว่าได้ เมื่อดอกหงอนนาคโรยไปก็จะมีดอกกุงผลิบานขึ้นมาทดแทน เป็นดอกสีเหลืองเต็มทุ่งหญ้า จะออกดอกในช่วงปลายเดือนกันยายน-ตุลาคม

5. ทุ่งดอกไม้ดงนาทาม


พอฝนใกล้หมดหรือปลายฝนต้นหนาวเราอยากแนะนำให้ท่านได้สัมผัสกับทุ่งดอกจิ่ว ดอกไม้ป่าไว้ 5 ชนิด ได้แก่ ดุสิตา สร้อยสุวรรณา ทิพเกสร มณีเทวา สรัสจันทร พันธุ์ดอกไม้ป่านี้จะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในช่วงปลายฝนต้นหนาว ดอกไม้ป่าจะบานเต็มที่ช่วงปลายเดือน พฤศจิกายนถึงปลายเดือนธันวาคม ของทุกปีที่ดงนาทาม ผาชนะได อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อ.โขงเจียม จ. อุบลราชธานี

6. ทุ่งดอกไม้ภูจองนา-ยอย


ช่วงเวลาที่เหมาะสมของการมาเที่ยวชมทุ่งดอกไม้จิ๋วที่ภูจองนายอย คือ ต้นเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี

7. ทุ่งดอกเปราะภูสีชมพู : เขตรักษาพันธุ์ป่าภูหลวง

เปราะภูสีชมพูแบ่งบานในช่วงต้นฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายน ของทุกปี ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จ.เลย หรือดินแดนที่เรียกว่า มรกตแห่งอีสาน ดินแดนแห่งกล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์

8. ทุ่งดอกเปราะภูสีขาว : ภูหินร่องกล้า


ดอกเปราะภูสีขาวที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก จะผลิบานต้อนรับนักท่องเที่ยวประมาณกลางเดือนมิถุนายนถึงราวกลางเดือนกรกฎาคมหรือช่วงฤดูฝน ช่วงที่ดอกเปราะภูสวยสดที่สุดคือปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://tripdeedee.com/8_flower.php